วันจันทร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2555

ต้มมะระ ยัดไส้หมูสับ


เมนูต้มมะระบางท่านก็เรียกว่า แกงจืดมะระ บ้างล่ะ  รสชาติของสูตรต้มมะระยัดไส้หมูสับนี้ก็ไม่ขมจนเกินไปเรียกได้ว่าเป็นเมนูที่กำลังกินได้อย่างอร่อยและพอดิบพอดีเลยทีเดียวเชียวค่ะ ส่วนขั้นตอนและวิธีทําต้มมะระยัดไส้หมูสับอยากจะดูเยอะกันสักเล็กน้อย แต่ถ้าทำได้แล้ว วิธีทำต้มมะระยัดไส้หมูสับ นี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ เอาล่ะค่ะเรามาเริ่มจากเครื่องปรุงรสต้มมะระยัดไส้หมูสับกันเลยดีกว่าค่ะ 
 
เครื่องปรุงรส  
  • มะระจีน 1 กก. จะได้ประมาณ 2 ลูก
  • เห็ดหอมแห้ง 1/2 ขีด หรือ 50 กรัม
  • ผักชี 2 ต้น
  • กระเทียม 1 หัวใหญ่
  • กระดูกหมู 1/2 กก. 
  • เนื้อหมูบด 4 ขีด
  • พริกไทยบ่น 1 ช้อนชา
  • ซอสปรุงรส 3 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ 
  • เกลือบ่น 1 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 2 ลิตร
 
วิธีทำและขั้นตอน ต้มมะระ ยัดไส้หมูสับ
 
- ขั้นตอนแรก นำกระดูกหมูมาล้างน้ำเปล่าให้สะอาด จากนั้นนำเห็ดหอมแห้งไปแช่น้ำให้อิ่มตัวและตามด้วยการหั่นมะระจีนให้เป็นท่อนๆ 1 ลูกให้ได้ 4 ท่อน และคว้านเมล็ดมะระจีนทิ้งไป จากนั้นนำกระเทียม 1 หัวใหญ่อาจจะมีหลายกรีบนำมาทุบพอหยาบ ส่วนผักชีให้หั่นไว้โรยหน้าส่วนรากผักชี 2 รากทุบหยาบพักไว้ก่อน
 
- ขั้นตอนที่สอง นำเนื้อหมูบดมาหมักกันก่อน เริ่มต้นที่นำหมูบดมาใส่ในภาชนะที่จะใช้หมักจากนั้นใส่พริกไทย 1 ช้อนชา ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊ว 1 ช้อนโต๊ะ คลุกเค้าให้เข้ากันพักทิ้งไว้สัก 15-20 นาที พอครบเวลาให้นำไปยัดไส้ในมะระ
 
- ขั้นตอนที่สาม นำกระดูกหมูมาใส่หม้อต้มจากนั้นเทน้ำเปล่าใส่ 2 ลิตร นำมาต้มด้วยไฟแรงจนเดือด พอน้ำเดือดให้เบาไฟเป็นไฟปานกลางเคี่ยวต่ออีก 20 นาที พอครบแล้วให้ตักกระดูกหมูออก จากนั้นใส่มะระยัดไส้ลงไปตามด้วยกระเทียมทุบหยาบ รากผักชีทุบหยาบและเห็ดหอมที่แช่น้ำไว้ใส่ลงไปในหม้อต้นน้ำกระดูกหมูเปิดไฟแรง จากนั้นใส่เกลือ 1 ช้อนชา คน 1 รอบ ต้มต่อ 15 นาที จากนั้นให้เบาไฟใช้ไฟอ่อนๆ เคี่ยวต่ออีก 30 นาที พอครบ 30 นาที ให้ใส่ ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันจากนั้นปิดไฟพร้อมเสิร์ฟใส่ชามโรยด้วยผักชี เป็นอันว่าขั้นตอนและวิธีทำสูตรเมนูต้มมะระยัดไส้หมูสับเป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ   ก็อย่างที่โบราณเค้าว่ากันว่า หวานเป็นลมขมเป็นยา สิ่งที่น่าคิดก็คือ ทำไมของที่มีประโยชน์ส่วนใหญ่มักจะมีรสชาติที่ไม่น่ารับประทาน ไม่อร่อยลิ้นเอาเสียเลย ก็อย่างเช่นเจ้ามะระนี่หล่ะค่ะ ที่มีรสชาติขมซะจนไม่อยากจะรับประทาน ภายใต้หน้าตาที่อัปลักษณ์ของมัน ถึงเวลาแล้วที่เราจะหันมาปฏิวัติการกินเสียใหม่นะคะ ชาวเอเชียรู้จักกันดีถึงสรรพคุณของมะระ แต่ชาวฝั่งตะวันตกกลับกลัวที่จะกินมัน ทั้งที่ยังไม่รู้ประโยชน์ที่แสนจะอัศจรรย์ของมันแม้แต่น้อย เรามาดูประโยชน์ของมะระกันเลยดีกว่านะคะ
          อย่างแรกเลย คือ ความขมของมะระนั้นสามารถช่วยให้เราเจริญอาหาร เพราะสารขมที่อยู่ในมะระนั้นจะช่วยกระตุ้นให้น้ำย่อย ออกมามากจึงทำให้รับประทานอาหารได้มากขึ้น ซึ่งเราอาจจะนำมะระไปลวก หรือเผาไฟจิ้ม แล้วนำมาจิ้มกับน้ำพริกก็ได้นะคะ           ต่อมา..ก็คือ คุณสมบัติในการการบำบัดและรักษาโรคเบาหวานระยะเริ่มต้นด้วยสารอาหารในมะระ ซึ่งทำหน้าที่เพิ่มเบต้าเซลล์ในตับอ่อน โดยการกระตุ้นให้เกิดการสร้างอินซูลิน (ฮอร์โมนควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด) อีกทั้งมะระยังมีเอนไซม์ที่ทำหน้าที่ย่อยน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรต สารอาหารจะผสมอยู่ในรูปของโปรตีน ซึ่งสามารถบรรเทาอาการเจ็บป่วยที่เกิดจากโรคตับและโรคเบาหวานได้ มะระยังสามารถแก้โรคตับอักเสบ ปวดหัวเข่า ม้ามอักเสบได้ค่ะ โดยรับประทานมะระดิบเป็นประจำจะช่วยได้ค่ะ
          นอกจากนี้มะระยังมีคุณค่าทางอาหารมากมาย เพราะอุดมไปด้วยฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินซี วิตามินบี1 - บี3, เบต้าแคโรทีน, ไฟเบอร์, ธาตุเหล็ก, โพแทสเซียม, เป็นต้น
          เมนูอาหารจากมะระ ได้แก่ ต้มจืดมะระยัดไส้, มะระต้มจับฉ่าย, ผัดะมะระหมูสับ, มะระผัดกุ้ง, มะระผัดน้ำมันหอย เป็นต้น หากจะลดความขมของมะระต้องลวกหรือต้มนานๆ โดยคลุกเคล้ากับเกลือก่อนที่จะนำไปปรุง หรือต้มน้ำแล้วเทน้ำทิ้ง 1 ครั้ง ก่อนนำมารับประทาน จะช่วยให้กินมะระได้อย่างสบายใจ
          แถมท้ายอีกนิดนะค่ะ ด้วยข้อควรระวัง เราทานมะระที่ดิบๆ กันได้ แต่ห้ามรับประทานมะระที่มีผลสุกนะค่ะ เพราะอาจทำให้คลื่นไส้ อาเจียนได้ค่ะ เนื่องจากมีสารซาโปนินอยู่มากซึ่งสารนี้จะทำให้เป็นพิษต่อร่างกายค่ะ อีกอย่าง อย่าทานมะระมากจนเกินไปนะค่ะ เพราะจะทำให้ท้องเสีย เนื่องจากมีฤทธิ์เป็นยาระบาย
          โอ้โห!!! ไม่น่าเชื่อเลยนะค่ะ ว่ามะระที่มีรสชาติที่ขม ไม่น่ารับประทาน ที่ใครหลายคนไม่ชอบรับประทานกันนั้น จะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายจนเราคาดไม่ถึงขนาดนี้ ดังนั้นเราควรจะหันมารับประทานมะระกันบ้างนะค่ะ จะได้มีสุขภาพที่ดีกันนะค่ะ